สวัสดีครับ คริสได้มีโอกาสไปเที่ยวเดินป่าปลายปี เดือนธันวาคม 2568 กับน้องอิ้ง ที่ดอยนางเมาะ ทริปนี้เป็นทริปที่กระทันหันมาก และไม่ได้ตั้งใจจะเขียนบล็อกนี้แบบจริงจัง แต่รูปภาพและประสบการณ์ได้รับมามันสวยงาม และอยากแชร์ทุกคนได้อ่านครับ ฮ่าๆ

ภาพถ่ายโดย: Warin Chotirosniramit
การเดินทาง
เริ่มต้นเดินทางจากตัวเมืองเชียงใหม่ไปยังจุดเริ่มเดินดอยแม่เมาะ บ้านแม่ผาแหน ต.แม่ออนใต้ อ.แม่ออน ระยะทางโดยประมาณ 40 กม. ใช้เวลาประมาณ 30 นาที – 1 ชม.ครับ
การเดินทางในทริปนี้ คริสไปยังสถานที่โดยรถส่วนตัวของเพื่อนครับ เนื่องจากไม่มีรถสาธาณะเข้ามายังจุดเริ่มเดินโดยตรง สามารถนำรถส่วนตัวเช่ารถยนต์ มอเตอร์ไซค์ หรือเหมารถแดง เข้ามายังสถานที่ได้ครับ
เมื่อมาถึงแล้วอ่างเก็บน้ำบ้านแม่ผาแหน เจอเจ้าถิ่นมาต้อนรับเลยครับ ฮ่าๆ น้องๆหมาจรที่อาศัยอยู่บริเวณแถวนี้ น่ารักเชียว เป็นมิตรด้วยครับ

ภาพถ่ายโดย: Warin Chotirosniramit
จุดเริ่มต้นเส้นทางธรรมชาติ

เราเริ่มเดินเข้าไปยังเส้นทางธรรมชาติครับ จะมีป้ายบอกและเส้นทางไปยังดอยแม่เมาะ
เราจะเจอจุดลงทะเบียนซึ่งเป็นกล้อง CCTV โดยเราต้องแจ้งข้อมูลให้กับกล้อง ได้แก่ ชื่อ-สกุล เบอร์โทรติดต่อ จำนวนผู้เข้า-ออก และเวลา เพื่อลงทะเบียนการเข้าศึกษาเส้นทางธรรมชาติเส้นนี้ครับ
เส้นทางจากจุดเริ่มต้นขึ้นดอย เดินง่ายไม่ลำบากครับ ไม่ต้องกลัวหลงครับ จะมีต้นไม้ที่ทำสัญลักษณ์บอกทางไว้อยู่ครับ แต่ระหว่างทางขึ้นดอยอาจจะชันและมีหินบ้างเป็นบางจุดที่ต้องระมัดระวังครับ

ธรรมชาติระหว่างทาง
ดอยแม่เมาะ อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติแม่ตระไคร้ มีลักษณะป่าที่ผสมผสานระหว่างป่าเต็งรัง-เบญจพรรณ และมีระยะทางประมาณ 8 กิโลเมตร เราใช้เวลาเดินประมาณ 5 ชม.
เราได้เห็นสิ่งมีชีวิตนานาชนิดระหว่างเส้นทาง ไม่ว่าจะเป็น ต้นไม้ประจำถิ่น แมลง นก หรือสัตว์เลื้อยคลานตัวน้อยก็เจอด้วยเหมือนกัน
ต้นไม้เด่นๆที่เจอและกำลังออกดอกช่วงเดือนธันวาคม คือ ต้นเหียง (Dipterocarpus obtusifolius)เป็นพืชจัดอยู่ในวงศ์ยางนา
ลักษณะที่น่าสนใจ ผลของเขาจะมีกลีบเลี้ยง 2 กลีบ มีเมล็ดกลม 1 เมล็ด คล้ายลูกยาง เมื่อผลแก่เต็มที่จะตกจากต้นแม่และกระจายพันธุ์ด้วยลม

ภาพถ่ายโดย: Warin Chotirosniramit
อีกต้นที่เจอเป็นต้นรักใหญ่ หรืออีกชื่อ รักแดง (Gluta usitata) มีดอกเป็นช่อแยกแขนง มีผลที่มีกลีบดอกติด ลักษณะคล้ายปีก สีแดง มีเมล็ดแข็ง 1 เมล็ด พบในป่าเบญจพรรณและป่าดิบเขา

ภาพถ่ายโดย: Warin Chotirosniramit
นักสถาปนิกตัวน้อย
นอกจากต้นไม้แล้ว เรายังเจอสัตว์นานาชนิดด้วย แมลงตัวน้อยตัวนิดที่เราเจอ เจ้าถิ่นตัวแรกครับ คือ เจ้าแมงมุม สถาปนิกแห่งป่าพงไพร เขาสร้างบ้านด้วยใยของเขา ซึ่งมีความแข็งแรงและเพื่อดักจับแมลงชนิดอื่นเป็นอาหาร

ภาพถ่ายโดย: Warin Chotirosniramit
นักผสมเกสรแห่งป่า
เรายังเจอแมลงช่วยผสมเกสรชนิดหนึ่งแต่ไม่ใช่ผึ้ง มันคือ ชันโรง ที่กำลังเก็บยางไม้จากต้นสน เพื่อนำมาสร้างโครงสร้างรังของเขา
เราเจอเจ้าชนิดนี้บ่อยมาก ดูเหมือนเขากำลังมาเก็บยางไม้และเกสรดอกไม้
เขาเป็นแมลงวงศ์เดียวกับผึ้ง ขนาดตัวเล็กกว่าผึ้ง แต่ไม่มีเหล็กใน ต่อยไม่ได้ แต่กัดได้ หากเราเข้าไปรบกวนเขา แต่อย่าไปทำร้ายอะไรเขาเลยครับ เขาไม่พิษมีภัยอะไร ทั้งนี้ยังช่วยผสมเกสรดอกไม้ด้วยครับ

ภาพถ่ายโดย: Warin Chotirosniramit

ภาพถ่ายโดย: Warin Chotirosniramit
“Nature always wears the colors of the spirit” by Ralph Waldo Emerson
นอกจากนี้ยังเจอแมลงชนิดอื่นระหว่างทางที่อิ้งถ่ายเก็บมาได้ จำพวกตัวต่อหมาร่า และผีเสื้อครับ สวยมากๆเลยครับ

ภาพถ่ายโดย: Warin Chotirosniramit

ภาพถ่ายโดย: Warin Chotirosniramit
เจ้ามังกรตัวตึงแห่งดอยนางเมาะ
น้องกิ่งก่าบินปีกส้ม (Draco maculatus) นั่นเอง ฮ่าๆ
ตอนแรกพวกเราส่องนกกัน แล้วบังเอิญเจอเจ้าน้องกิ่งก่าตัวนี้แหละครับ
ด้วยแผงคอสีเหลืองที่โดดเด่น คิดว่าเขาต้องบินได้แน่ๆ สรุปน้องกระโดดบินร่อนให้โชว์เลยครับ สุดยอดมาก
จากที่ดูนกมาดูน้องแทน เจ้าน้องกิ้งก่าได้แย่งซีนนกไปเรียบร้อยแล้ว ฮ่าๆ 😂

ภาพถ่ายโดย: Warin Chotirosniramit
จุดชมวิวระหว่างเส้นทาง
พวกเราเดินมาเรื่อยๆชมนกชมไม้ระหว่างทาง ประมาณ 3 กม. มาถึงจุดชมวิวที่หนึ่ง เลยจุดพักใจขึ้นมานิดหน่อย ซึ่งจริงๆแล้วเราออกนอกเส้นทางไปนิดครับ ฮ่าๆ แต่วิวภูมิทัศน์สวยมากมองเห็นอ่างน้ำแม่ผาแหนด้วยครับ

ภาพถ่ายโดย: Warin Chotirosniramit
จุดกลับใจ
เดินไปเรื่อยๆเกือบครึ่งทาง ระหว่างทางเราก็เจอจุดกลับใจ (กลับใจไม่ทันแล้ว แง้ ) จุดนี้มีรูปปั้นครูบาศรีวิชัยและท้าวเวสสุวรรณประทับอยู่ครับ เราแวะเคารพาสักการะ เอาฤกษ์เอาชัย แล้วเดินไปกันต่อ เย้

จุดเนินชัน
แต่เมื่อเราเห็นเขาข้างหน้า รู้ชะตากรรมเลยว่าเส้นทางต่อไปชันแน่นอน เพราะเห็นเนินชันและเชือกเตรียมพร้อมรอนักเดินทางอย่างพวกเราอยู่

ภาพถ่ายโดย: Warin Chotirosniramit
จากจุดครูบาศรีวิชัยเดินขึ้นลงเขานิดหน่อย สนุกดี ท้าทายหัวเข่า แต่สำหรับเราแล้ว ขาขึ้น ก็สบายๆ ม้วนๆครับ ไม่ยาก แวะถ่ายรูปเห็นวิวอ่างเก็บน้ำและภูเขาด้านหลัง ฮ่าๆ 😎

ไฮไลท์ชมวิวดอยนางเมาะ
มาถึงจุดเช็คอินไฮไลท์ของดอยนางเมาะที่นี้เลยครับ เป็นจุดที่มีพระพุทธรูปบนโขดหินและต้นสน มาถึงจุดนี้เห็นวิวแล้วหายเหนื่อยเลยครับ เพราะวิวสวยมาก ก.ล้านตัว เย้!

นอกจากนี้ ยังบังเอิญเจอกองทัพแมลงเต่าทองที่เยอะมากๆครับ ซึ่งน่าประหลาดใจ เพราะไม่เคยเห็นเขาอยู่รวมกันจำนวนเยอะขนาดนี้ เป็นไปได้ว่าเขาจะรวมกลุ่มกันในช่วงอากาศหนาว เพื่อหาที่พักพิง หรืออาจจะรวมตัวกันเพื่อผสมพันธุ์ครับ

ภาพถ่ายโดย: Warin Chotirosniramit
ปล่องภูเขาไฟโบราณ
จากนั้นเดินมาไม่ไกล เราเจอจุดเช็คอินที่สุดท้าย คือ ปล่องลึกลับ มีความลึกเกือบ 2 เมตร คล้ายปล่องภูเขาไฟโบราณ อยู่บนยอดดอยนางเมาะ นี่สินะ เขาเรียกว่า “ฟูจิออนใต้”

มานั่งพักกินข้าวให้หายเหนื่อยหายหิว จากนั้นก็เดินทางต่อลงดอย ระหว่างทางเราก็ได้เจอและได้ยินเสียงนกหลายหลายชนิดตลอดเส้นทาง เหมือนได้ฟังเสียงเพลงจากธรรมชาติ
และแล้วบังเอิญเจอฝูงนกยูงหลายตัวอยู่รวมกันหลายตัว พวกน้องนกยูงเห็นพวกเราตกใจ รีบหนีบินไปเสียก่อน เร็วมาก เสียดายเก็บภาพไว้ไม่ทัน

ภาพถ่ายโดย: Warin Chotirosniramit

ภาพถ่ายโดย: Warin Chotirosniramit
ขาลงดอย
เส้นทางขาลงค่อนข้างชัน มีช่วงผาชัน (บางช่วง) และหินเยอะ เดินลงต้องระมัดระวังนิดนึงครับ
ระหว่างทางที่เดินลงมา ก็เจอช่องทางน้ำไหลจากบนดอย แต่ไม่มีน้ำในช่วงนี้ เดินตามเส้นทางนี้มีต้นไม้ที่มีริบบิ้นสีแดง และป้ายบอกทาง จะนำทางไปยังอ่างเก็บน้ำผาแหน
เดินมาเรื่อยๆเราก็จะเจอแปลงปลูกป่าของกรมป่าไม้ และเจอถนนในที่สุด จากนั้นให้เดินตามถนนอี่กไม่ไกลก็เจออ่างเก็บน้ำผาแหน

กลับมาถึงก็นั่งชิวริมอ่างเก็บน้ำกับน้องหมาน้อย 2 ตัว สรุปทริปนี้สนุกมาก ดีใจที่ได้มาเดินป่ากับอิ้งด้วยกัน และขอบคุณอิ้งที่เป็นตากล้องสุดเท่ ถ่ายรูปสวยๆได้นำมาแชร์เพื่อนๆในบทความนี้

ภาพถ่ายโดย: Warin Chotirosniramit
หวังว่าเพื่อนๆที่ได้อ่านบทความนี้ได้รับประโยชน์ไม่มากก็น้อย อยากให้เพื่อนๆที่ได้มาลองสัมผัสประสบการณ์ดีๆที่ดอยนางเมาะกัน แล้วเพื่อนๆจะไม่ผิดหวังแน่นอน 🙂
ทริปดอยนางเมาะของเพื่อนๆไปเป็นอย่างไรกันบ้าง มาแชร์กันได้นะครับ
อ้างอิง
K. Chayamarit. 2008. Anacardiaceae. In: Flora of Thailand. T. Santisuk and K. Larsen (Eds.), vol. 10 part 3: 289. Forest Herbarium, National Park, Wildlife and Plant Conservation Department. Bangkok.
http://biodiversity.forest.go.th/index.php?option=com_dofplant&id=32&view=showone&Itemid=132
R. POOMA, M. POOPATH & M.F. NEWMAN., 2016. Dipterocapaceae. In Flora of Thailand. T. Smitinand and H. Balslev (Eds.), vol. 13 part 4: 587. Forest Herbarium, National Park, Wildlife and Plant Conservation Department. Bangkok.
http://biodiversity.forest.go.th/index.php?option=com_dofplant&id=63&view=showone&Itemid=132
https://thbif.onep.go.th/minisite/phu-khiao/taxons/detail/3436
ขอบคุณภาพสวยๆ
ภาพถ่ายโดย: Warin Chotirosniramit
SHARE
